ผู้ติดตาม

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566

วัดเจติยาศรีวิหาร หรือ วัดภูทอก   



 
วันนี้จะพาเพื่อนๆ มาเที่ยวที่ บึงกาฬ กับสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็น วัดสวย แต่ต้องบอกก่อนว่า คนที่จะมาเที่ยวที่นี่ได้นั้น จะต้องไม่กลัวความสูง หรือไม่ก็มีความกล้าแบบสุดๆ เลยนะคะ เพราะเราจะไปวัดที่อยู่บน ภูทอก อย่าง วัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร วัดที่มีทางเดินริมหน้าผา สุดเสียวว เป็นที่เที่ยวที่ต้องมาสักครั้งในชีวิตแห่งนี้นั่นเอง

ภูทอก เป็นที่ตั้งของ วัดเจติยาศรีวิหาร หรือ วัดภูทอก ตั้งอยู่ในเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จังหวัดบึงกาฬ โดยมี พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งคำว่า ภูทอก ในภาษาอีสานนั้น แปลว่า ภูเขาโดดเดี่ยว ที่นี่จะมีภูเขาอยู่ 2 ลูก ด้วยกัน คือ ภูทอกใหญ่ และ ภูทอกน้อย ส่วนที่สามารถชมได้คือ ภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่จะอยู่ห่างออกไป และยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมค่ะ  


 



จุดเด่นของ วัดภูทอก ก็คือ สะพานไม้ และบันไดรอบๆ ภูทอก ที่จะใช้แค่เพียงบันได วนไปมา แบบ 360 องศา  มีทั้งหมดกว่า 7 ชั้น ใช้เวลาสร้างนานถึง 5 ปี โดยบันไดแต่ละชั้นจะแตกต่างกันไป จากชั้น 3 ถึง ชั้น 6 จะสามารถเดินเวียนรอบได้ ส่วนชั้นที่ 5 ถึง ชั้น 7 จะจัดให้เป็นแดนสวรรค์ ที่ต้องสำรวมระวังกาย วาจา และหรือสวดมนต์ไปด้วย ซึ่งว่ากันว่าจะได้บุญนั่นเอง

ทำให้ที่ วัดภูทอก กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์ คือ การท่องเที่ยวในเชิงการแสวงบุญ นั่นเอง คือนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ นอกจากจะได้เที่ยวชมธรรมชาติแล้ว ก็ยังได้ศึกษาพุทธศาสนาไปพร้อมๆ กันอีกด้วย


  


ส่วนของไฮไลท์ วัดภูทอก นั้น จะอยู่ที่ชั้นที่ 6 เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดเลย ตลอดทางเดินจะเป็นหน้าผายื่นออกมา บางครั้งต้องเดินเบี่ยงตัวออกมาเล็กน้อย ต้องบอกเลยค่ะว่าเสียวสุดๆ มีขาสั่นๆ กันอย่างแน่นอน โดยหน้าผาแต่ละจุดก็จะมีชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น ผาเทพนิมิตร ผาเทพสถิต ผาหัวช้าง เป็นต้นค่ะและในช่วงฤดูหนาว ภูทอก จะมีทะเลหมอกอยู่รอบๆ  ทำให้เหมือนกับอยู่บนสวรรค์เลยทีเดียว จากชั้นที่ 6 ขึ้นสู่ชั้นที่ 7 นั้น จะเป็นสะพานไม้ วนรอบเขายาว 400 เมตร อยู่ริมหน้าผา บอกเลยว่าจุดนี้ ทั้งสูงและชัน น่าหวาดเสียวมากๆ  โดยจะมีสิ่งที่น่าสนใจคือ ปากทางเข้าเมืองพญานาค ที่จะอยู่หลังพระปางนาคปรก จะมีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ชาวบ้านจะเชื่อกันว่าเป็น รอยถลอกที่เกิดจากท้องพญานาค สัมผัสเข้ากับหิน



• ที่อยู่ : บ้านคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ 


• พิกัด : https://goo.gl/maps/eb13fwajE5dZnTdx6   


• เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.00 น.
 

วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2566

วัดโพธาราม หรือ วัดท่าไคร้ 

 




วัดโพธาราม หรือ วัดท่าไคร้ 
เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปที่มีความสำคัญ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบึงกาฬ คือ หลวงพ่อพระใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ ศอก ๑ คืบ ๔ นิ้ว (๕ ฟุต ๔ นิ้ว) ความสูง ๓ ศอก ๑ คืบ (๗ ฟุต) ศิลปะสมัยล้านช้าง เป็นพระพุทธรูปโลหะที่มีการฉาบปูนโอบไว้ ภายหลังได้ทาสีทองทับเพื่อป้องกันองค์พระชำรุด เนื่องจากมีการสรงน้ำองค์หลวงพ่อพระใหญ่เป็นประจำทุกปี
ปัจจุบันโบสถ์วัดโพรารามที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใหญ่กำลังอยู่ในช่วงการบูรณะ โบสถ์แห่งนี้ให้เฉพาะผู้ชายเข้าได้เท่านั้น ส่วนผู้หญิงให้กราบไหว้สักการะบูชาที่หน้าโบสถ์
ภายในวัดยังมีเรือกำปั่นโบราณ และไม้ตะเคียนทอง ที่มีผู้คนมาขอโชคลาภมากมาย 

วันเวลาเปิดปิด
เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ 
เวลา08:00-18:00 


พิกัด
หมู่ 5 บ้านท่าไคร้ บึงกาฬ เมืองบึงกาฬ บึงกาฬ 43140
https://maps.app.goo.gl/9V4aL49YhCVU61eU9

วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2566

วัดอาฮงศิลาวาส

 




วัดอาฮงศิลาวาส เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดบึงกาฬ  ด้วยเหตุที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พื้นที่ติดกับแม่น้ำโขงเป็นแนวโค้งยาวประกอบกับมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องพญานาค ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาที่วัดอาฮง และแก่งอาฮง อย่างไม่ขาดสาย

มีความเชื่อกันว่าบริเวณหน้าวัด คือ จุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขงซึ่งมีความลึก 200 เมตร บริเวณนี้จะมีน้ำจะไหลเชี่ยววนจนเป็นหลุมรูปกรวย หากมีพวกเศษไม้ ใบไม้หรือวัตถุเล็กๆ ติดอยู่จะถูกกระแสน้ำหมุนวนเป็นรูปกรวยประมาณ 20-30 นาที แล้วจึงหลุดเคลื่อนไปในที่อื่น เมื่อมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาอีกก็จะต่อตัวเป็นรูปกรวยขึ้นมาใหม่เกิดสลับกันไปตลอดทั้งวัน จึงทำให้เชื่อว่าที่นี่คือ จุดที่เป็น สะดือแม่น้ำโขง ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี สามารถมองเห็นแก่งอาฮง แก่งหินกลางลำน้ำโขงปรากาฎขึ้นมาเหนือน้ำ กลุ่มหินมีชื่อเรียกตามลักษณะของหิน เช่น หินลิ้น นาค หินปลาเข้ ถ้ำปลาสวาย นอกจากเป็นแหล่งพักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ชาวบ้านโดยรอบยังอาศัยทำการประมงด้วย

ภายในวัดยังมีวิหารพระพุทธชินราช วิหารหลวงพ่อสุโขทัย  และลานหินธรรมชาติ รวมถึงเจดีย์พระบรมธาตุอาฮง ซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูงสวยงามมองเห็นโดดเด่นจากริมถนนอีกด้วย 


ที่ตั้ง

หมู่ 3 ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

38000

วันเวลาเปิด-ปิด

เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00-18:00

https://maps.app.goo.gl/ZX898LcJgtHam7KR7

วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต

 



พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต เกิดจากความตั้งใจของสุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง ที่นำเรือนไทยอีสานดั้งเดิมของครอบครัวตนในจังหวัดบึงกาฬ มาสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยเชื่อมโยงศิลปะเข้ากับวิถีชุมชนแบบเกื้อกูล เพื่อพัฒนาชุมชนตามแนวทางที่ยั่งยืน

เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เข้ามาเรียนรู้วิถีดั้งเดิมของครอบครัวอีสานในอดีต ผ่านวิถีการใช้ชีวิตของชุมชนหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ

นอกจากจะมีภาพวาดต่างๆที่กระจายอยู่รอบๆหมู่บ้าน ภายในพิพิธภัณฑ์นี้ยังมีรูปปั้นพญาคและสัตว์ชนิดอื่นให้ได้รับชม อีกทั้งยังมีเรือนไม้อีสานเก่าแก่อายุ 60 ปี ที่เหลืออยู่น้อยเต็มทีในสังคมยุคใหม่ กับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมซึ่งเป็นเรือนไม้ทั้งหลัง ฉาบทาบันไดและประตูหน้าต่างด้วยสีเขียวตั้งแช เฉดสีที่ได้ยินก็แปลกหู เราได้รับคำอธิบายจากเจ้าของบ้านว่า เป็นสีเขียวที่สื่อถึงธรรมชาติ ให้ความร่มรื่นสบายตา

หากท่านอยากดื่มด่ำบรรยากาศภายในหมู่บ้านให้เต็มอิ่มทางพิพิธภัณฑ์ยังมีห้องให้ค้างคืนได้ มีบริการอาหารเช้าอีกด้วย 


พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ (Life Community Museum Bueng Kan) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 

อัตราค่าเข้าชม

เด็ก 25 บาท

ผู้ใหญ่ 50 บาท

นักเรียน/นักศึกษา 25 บาท

พระภิกษุ/สามเณร ฟรี

คณะรถตู้+มีผู้นำชม 1500 บาท

คณะรถบัส+มีผู้นำชม 2000 บาท

ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.

สอบถามรายละเอียดและขอนัดเข้าชมได้ที่ คุณนริศรา วงศ์ภูมี (สุริยะ) โทร. 086-229 7629  Facebook : พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ


วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566

วัดสุวรรณราชดาราม

 





วัดสุวรรณราชดาราม 


วัดสุวรรณราชดาราม เป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดหอคำ เนื่องมาจากการค้นพบก้อนหินขนาดใหญ่ในวัด ซึ่งพบในภายหลังว่าเป็นทองคำ วัดหอคำจึงเป็นจุดศูนย์กลางระหว่างบ้านหอคำและบ้านหอคำเหนือ

ภายในวัดมีท้าวเวสสุวรรณประดิษฐานอยู่ใกล้ริมฝั่งโขง สามารถมาไหว้สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล และเช็คอินชมวิวความสวยงามสองฝั่งโขงได้

บรรยากาศภายในวัดดีมากๆ มีรถเข็นขายของอยู่ภายในวัดให้สามารถซื้อรับประทานได้ มีจุดไว้ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจมีวิวเป็นแม่น้ำโขงและภูเขาที่ติดฝั่งลาว 


ไฮไลท์ - ชมวิวสองฝั่งโขงได้ใกล้ 


ที่อยู่ - 📌📌พิกัด : บ้านหอคำ ต.หอคำ จ.บึงกาฬ

https://maps.app.goo.gl/PyzYhkxBaAm7yfTU8


ริมโขงเมืองบึงกาฬ

  วันนี้เราก็จะพาทุกคนมาเดินเล่นชิลๆที่ริมโขงเมืองบึงกาฬ ลานสาธารณะบนถนนเลียบชายโขง สามารถมาเดินเที่ยวชมธรรมชาติริมแม่น้ำโขง สัมผัสบรรยากาศด...